⚠️ ปัญหาที่คนเลี้ยงปลาหลายคนเจอโดยไม่รู้ตัว
เช้าวันหนึ่งตื่นมาพบว่าปลาในบ่อตายเกือบหมด ทั้งที่เมื่อวานยังว่ายน้ำและกินอาหารปกติ
นี่คือสถานการณ์ที่ผู้เลี้ยงปลาหลายคนพบเจอ และ “แก๊สไข่เน่าในบ่อปลา” คือสาเหตุสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง
แก๊สชนิดนี้มักเกิดขึ้นแบบเงียบ ๆ ใต้น้ำ โดยไม่มีสัญญาณเตือนชัดเจน
แต่เมื่อปริมาณมันสะสมถึงระดับอันตราย มันสามารถฆ่าปลาได้ “ภายในคืนเดียว”
💨 แก๊สไข่เน่าคืออะไร?
แก๊สไข่เน่า (Hydrogen Sulfide: H₂S)
เป็นก๊าซที่เกิดจาก “กระบวนการย่อยสลายของเสียแบบไม่ใช้ออกซิเจน”
หรือที่เรียกว่า Anaerobic Decomposition
แหล่งกำเนิดของมันคือ
- มูลปลา
- เศษอาหารที่เหลือ
- พืชน้ำหรือแพลงก์ตอนที่ตาย
- ตะกอนอินทรีย์ที่หมักหมมก้นบ่อ
เมื่อของเสียเหล่านี้จมอยู่ในชั้นน้ำที่ขาดออกซิเจน
แบคทีเรียบางชนิดจะย่อยสลายมันและปล่อย “แก๊สไข่เน่า” ออกมา
กลิ่นของแก๊สชนิดนี้จะเหมือน “ไข่ต้มเน่า” หรือ “กลิ่นซากเน่า” — แค่ได้กลิ่นจาง ๆ ก็บ่งบอกว่าบ่อเริ่มเข้าสู่ภาวะอันตรายแล้ว
🧪 ทำไมแก๊สไข่เน่าถึงทำให้ปลาตายได้ภายในคืนเดียว?
- H₂S เป็นพิษต่อระบบหายใจของปลาโดยตรง
เมื่อปลาหายใจเอาแก๊สชนิดนี้เข้าสู่เหงือก มันจะขัดขวางกระบวนการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ทำให้ปลา “ขาดอากาศ” อย่างรวดเร็ว - ออกซิเจนในน้ำลดต่ำอย่างเฉียบพลัน
พื้นบ่อที่เกิดแก๊สไข่เน่าจะดึงออกซิเจนไปใช้ในการย่อยสลายของเสีย ทำให้น้ำขาดออกซิเจนทั้งบ่อ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน - เกิดสารพิษสะสมในน้ำ
แก๊สไข่เน่ามักมาพร้อมกับแอมโมเนียและไนไตรต์ ซึ่งรวมกันทำให้ปลาอ่อนแอและตายในเวลาอันสั้น - ปลาช็อกจากการเปลี่ยนแปลงของค่า pH
แก๊สไข่เน่าทำให้ค่า pH ในน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ปลาจะเข้าสู่ภาวะช็อกภายในไม่กี่ชั่วโมง
ดังนั้น หากบ่อเกิดการ “กลับน้ำ” หรือ “น้ำล่างพลิกขึ้นบน”
แก๊สที่สะสมอยู่ก้นบ่อจะพุ่งขึ้นมาทันที — และนี่แหละคือสาเหตุที่ปลาตายพร้อมกันทั้งบ่อภายในคืนเดียว
🌿 สัญญาณเตือนว่าบ่อปลาเริ่มมีแก๊สไข่เน่า
- น้ำมีกลิ่นเหม็นคล้ายโคลนหรือไข่เน่า
- พื้นบ่อมีคราบดำหรือตะกอนสีคล้ำ
- น้ำขุ่นจัดหรือมีฟองเล็ก ๆ บนผิวน้ำ
- ปลาขึ้นมาหายใจเหนือน้ำในตอนเช้ามืด
- แพลงก์ตอนในน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบฟื้นบ่อทันที เพราะเป็นสัญญาณว่าระบบในบ่อเริ่มขาดออกซิเจนและมีการย่อยแบบไม่ใช้อากาศเกิดขึ้นแล้ว
💧 วิธีลดและป้องกันการเกิดแก๊สไข่เน่าในบ่อปลา
- เปิดเครื่องตีน้ำหรือเติมอากาศเป็นประจำ
เพื่อให้ชั้นน้ำล่างได้รับออกซิเจน ลดโอกาสเกิดสภาวะไร้อากาศ - ลดของเสียในบ่อ
ให้อาหารปลาในปริมาณที่เหมาะสม และดูดตะกอนก้นบ่อเป็นระยะ - เปลี่ยนน้ำบางส่วนทุกสัปดาห์ (ประมาณ 20–30%)
เพื่อเจือจางของเสียและควบคุมค่าความเข้มข้นของสารพิษ - ฟื้นระบบจุลินทรีย์ในบ่ออย่างสม่ำเสมอ
จุลินทรีย์ที่ดีจะช่วยย่อยของเสียในสภาพมีออกซิเจน ลดการเกิดแบคทีเรียที่สร้างแก๊สไข่เน่า - หลีกเลี่ยงการกลับน้ำอย่างรวดเร็วหลังฝนตกหนัก
เพราะน้ำเย็นจากฝนจะทำให้น้ำล่างที่มีแก๊สพิษลอยขึ้นมาทันที
🌊 เข้าใจไว้ก่อนสาย — บ่อปลาที่ดีต้อง “หายใจได้”
บ่อปลาที่สมดุลจะมีระบบจุลินทรีย์ดี ช่วยย่อยของเสียในแบบใช้ออกซิเจน
เมื่อน้ำมีการหมุนเวียนสม่ำเสมอ พื้นบ่อไม่เน่า และไม่มีการสะสมของแก๊สพิษ
ปลาก็จะอยู่ได้อย่างสบาย กินอาหารดี โตไว และไม่ต้องเผชิญกับ “คืนมรณะ” อีกต่อไป



